SMILE CONDO NEWSLETTER
August 2015
12 สิงหามหาราชินิ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ข้าพระพุทธเจ้า โครงการ ซันไรซ่า ศรีราชา คอนโดมิเนี่ยม
NEWS & ACTIVITY
10/08/2012
Centara Sonrisa Residences and Suites Sriracha และทีมออกแบบ บ.ideal1 จก.
ได้เข้าร่วมประชุมงาน 3rd TA Meeting
ณ Sonrisa Siracha Condo
11/08/15
SONRISA SIRACHA CONDO
การประชุมงานก่อสร้างประจำสัปดาห์
ทีมงานโครงการฯ และวิศวกรควบคุมงานเข้าพื้นที่เพื่อตรวจงานจริงในทุกๆสัปดาห์ค่ะ
14/08/15
SONRISA มหกรรมจับใจ เสวนา "ทำธุรกิจอย่างไร ให้จับใจมหาชน"
SMILEGROUP มหกรรมจับใจ กระตุ้นจับจ่าย
ทพญ.ณัฏฐ์ศรัย ชัยจินดารัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ /กรรมการหอการค้า จังหวัดชลบุรี ได้รับเชิญเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ เวทีเสวนาให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ กับนักธุรกิจหน้าใหม่จากกลุ่มนักธุรกิจอายุน้อย (YEC : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) และ ร่วมจัดกิจกรรมออกร้านค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนำสินค้าต่างๆของบริษัทในเครือสไมล์กรุ๊ป จัดจำหน่าย เพื่อเป็นโมเดลธุรกิจขนาดย่อมที่มีการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
24/08/2558
SONRISA
เราร่วมสนับสนุนกิจกรรมดีดี ของบริษัทในเครือสไมล์กรุ๊ป
Modern Smile Dental จัดกิจกรรมสนุกๆและให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน กับบริษัทคู่สัญญา ในสัปดาห์ความปลอดภัย
ขอขอบพระคุณ บริษัท มิตซูบิชิ อิเลคทริค ไทยออโต้พาร์ท จำกัด
25/08/15
SONRISA การบริหารองค์กร และโครงการออกแบบภายใน
โครงการ ซันไรซ่า ศรีราชา - ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งชิ้นงานศิลปะที่มากกว่าคำว่าคอนโดมิเนี่ยมเพื่อพักอาศัย เป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่เพิ่มมูลค่าด้วย ประณีตในจินตนาการลายเส้นที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ที่สร้างขึ้นได้จริงด้วยวิศวกรและทีมงานก่อสร้างมืออาชีพ
วันที่ 25 สิงหาคม 58 คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อาจารย์ ดร.นุชภางค์ แก้วนิล อาจารย์ ดร.ชนินทร สุขเจริญ และ อาจารย์ ดร.ภูริต โศภคณาภรณ์ และนักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เข้ารับฟังบรรยายพิเศษ ในเรื่องการบริหารจัดการองค์กร โครงสร้างในงาน รวมถึงการก่อสร้างโครงการ จากวิทยากรกิตติมศักดิ์ ทพญ ณัฏฐ์ศรัย ชัยจินดารัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ,กรรมการหอการค้าจังหวัดชลบุรี ท่านอาจารย์ สุชัย รุจิวณิชกุล ประธานที่ปรึกษาวิศวกรรมอาคารและระบบโครงการฯ ,ประธานกรรมการบริษัทซีไซด์ อินเตอร์ฯ ได้ให้ความรู้ และการศึกษาจากผลงานศิลปะที่จับต้องได้ โดยลายเส้นของ ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง
เทปย้อนหลัง รายการอยู่สบาย 29082015
ชม SONRISA SIRACHA CONDO กับภาพความประทับใจของนักศึกษาคณะมัณฑนศิลป์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัย ศิลปากร และคณาจารย์ เข้าเยี่ยมชมโครงการฯ และฟังบรรยายพิเศษ จาก ทพญ.ณัฏฐ์ศรัย ชัยจิดารัตน์ กรรมการผู้จัดการ และ กรรมการหอการค้าจังหวัดชลบุรี และ วิทยากรกิตติมศักดิ์ ท่านอาจารย์สุชัย รุจิวณิชกุล ประธานกรรมการที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมโครงสร้างอาคารและระบบ ประธานกรรมการบริษัท ซีไซด์ อินเตอร์ฯ นำความรู้และประสบการณ์ในการทำงานมาบอกต่อเพื่อให้นักศึกษาได้นำไปบูรณาการในวิชาชีพมัณฑนากรที่ดีในอนาคต
ทั้งนี้ทางโครงการฯต้องขอขอบพระคุณ ผู้มาเยี่ยมเยือนทุกท่าน คณาจารย์ และ ผศ.เอกพงษ์ ตรีตรง คณบดีคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร เป็นอย่างสูงที่เลือกให้เราเป็นหนึ่งงานศิลปะที่สร้างขึ้นเพื่อการพักอาศัยได้อย่างเหนือระดับและเราคือ Landmark ของเมืองศรีราชา
NEWS & KNOWLEDGE
AUGUST 8, 2015 08:000 COMMENTS
สวัสดีครับ ช่วงสองปีมานี้หลายคนคงเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของ ชลบุรี
พัทยา ศรีราชา สัตหีบ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก
แต่แม้ว่าจะเป็นหัวเมืองที่อยู่ติดกัน
หากแต่มีบริบทของการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สำหรับผู้ที่สนใจอสังหาคงรู้จักพัทยากันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
ส่วนศรีราชานั้นมีคนที่สนใจไม่มาก
ทั้งที่ศรีราชากำลังมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากในช่วงสองสามปีหลังมานี้… บทความฉบับนี้เป็นบทสรุปภาพรวมของศรีราชาเพื่อความเข้าใจกันก่อน
ซึ่งเราคงจะมีบทวิเคราะห์ทำเลในเชิงลึกตามมาอีกไม่นานครับ
แผนที่ศรีราชา จะเป็นพื้นที่ที่ทำเป็นสีแดงไว้นะครับ
โดยการเดินทางจากกรุงเทพมาศรีราชา จะมีระยะทางราว 120 กิโลเมตร
ถือเป็นเมืองที่ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไร
ศรีราชาวันนี้
เริ่มมีผู้ประกอบการอสังหาระดับประเทศหลายเจ้าเข้าไปเก็บที่ดินกันแล้วนะครับ
หลายเจ้าก็เข้าไปพัฒนาโครงการกันเอิกเกริกทั้งแนวราบและแนวดิ่ง
แถมด้วยการพัฒนาเชิง commercial อย่างพวก Community Mall ร้านค้า
และห้าง อันทำให้เกิดการพุ่งขึ้นของราคาที่ดินศรีราชาอย่างมากในรอบสองสามปีหลังนี้
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นที่ศรีราชา
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือความนิยมอันเป็นแฟชั่นนะครับ
เพราะศรีราชาไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอย่าง พัทยา เชียงใหม่ หรือหัวหิน
การบูมขึ้นของศรีราชา นั้นเกิดมาจากปัจจัยด้านรูปแบบการพัฒนาเมืองและแนวโน้มอนาคตที่เริ่มปรากฎชัดขึ้นทุกที
ซึ่งผมจะสรุปคร่าวๆให้ฟังกันครับ … ว่าเขากำลังทำอะไรกันที่ศรีราชา
การเปลี่ยนเมืองเป็นเขตปกครองพิเศษ
เทศบาลแหลมฉบังกำลังจะถูกยกระดับเป็น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น “รูปแบบพิเศษ”
ต่อจาก
กรุงเทพฯ และพัทยา ตามแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 7 กำหนดให้พื้นที่แหลมฉบังเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก
ซึ่งจะครอบคลุมไปถึง ศรีราชา และบางละมุงด้วย การยกระดับเป็นรูปแบบพิเศษนี้
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการเมือง
และจะมีผลให้ได้งบประมาณเพื่อใช้ในการบริหารเพิ่มจากปัจจุบันที่เก็บภาษีได้ราว 600
ล้านบาทต่อปี
กลายเป็น 2,000 ล้านบาท (1% จากเป้าประเมิน 200,000 ล้านบาท)
ซึ่งจะทำให้มีงบประมาณในการพัฒนา infrastructure ได้มากและดีขึ้นด้วย…
แล้วเหตุอันใด
เขาจึงต้องยกระดับ แหลมฉบังรวบศรีราชาและบางละมุงเป็น อปค พิเศษ ด้วยเล่า
นั่นเป็นเพราะ
ศรีราชา-แหลมฉบังกำลังจะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปของการพัฒนาตามแผนระยะยาวที่วางเอาไว้เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศครับ
ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง
แหลมฉบัง ถือเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศที่สำคัญของไทยนะครับ
จากยุคแรกที่ช่วยแบ่งเบาท่าเรือกรุงเทพ มาจนเป็นเสาหลักด้านการขนส่งทางน้ำ
แหลมฉบังในปัจจุบันมีเนื้อที่ราว 6 พันไร่ จัดเป็นท่าเรือที่สำคัญอันดับ 16 ของโลก
และกำลังเติบโตต่อไปแบบก้าวกระโดดเกาะติดควบคู่ไปกับท่าเรือน้ำลึกทวายของพม่าถ้าเชื่อมต่อกันสำเร็จ…
แต่แค่ในตอนนี้
แหลมฉบังถือเป็นท่าเรือที่เติบโตสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก มีกำลังรับขนส่งได้ราว 10
ล้าน
TEUs ( 10 ล้านตู้ 20 ฟุต) ต่อปี และยังอยู่ในช่วงการพัฒนาเฟส3 ซึ่งจะทันสมัยและรองรับจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ได้มากขึ้นอีก
…
และอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า
แหลมฉบังมีแผนจะเติบโตเกาะคู่กันไปกับทวายฝั่งพม่าซึ่งเป็นโปรเจ็คมโหฬารครบเครื่องทั้งท่าเรือและแหล่งผลิตสินค้าที่ใหญ่กว่าแหลมฉบังหลายเท่า
(แหลมฉบัง 6,000 ไร่ไม่รวมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ VS ทวาย 300,000
ไร่รวมพื้นที่ทั้งหมด)
แม้ว่าจะมีขนาดที่แตกต่างกันมาก
แต่การจะเติบโตอย่างเต็มที่ไปด้วยกันนั้นทั้งสองประเทศต้องพึ่งพิงกันและกัน
โดยการเชื่อมต่อการขนส่งทางบกเข้าด้วยกันให้ได้ อันเป็นแผนในข้อถัดไปครับ
การเชื่อมโยงแหลมฉบัง กับท่าเรือน้ำลึกทวาย
การเชื่อมโยงทางบก จะมีทั้งแผนการทำรางรถไฟ และทางรถยนต์
โดยเน้นการขนส่งตู้สินค้าระหว่างกัน สำหรับรองรับตู้สินค้าที่มาจากฝั่งตะวันออกเช่น
จีน ญี่ปุ่น ใต้หวัน เกาหลี เวียดนาม มาลงที่แหลมฉบังแทนการอ้อมแหลมมลายู
โดยตู้สินค้าจะถูกโหลดขึ้นระบบราง และขนส่งต่อไปลงเรือที่ทวาย ส่งต่อไปอินเดีย
ตะวันออกกลาง หรืออาฟริกาต่อไป ซึ่งต้องหวังให้ไม่มีอะไรสะดุดนะครับ เพราะตอนนี้เพิ่งศึกษาความเป็นไปได้จบ
และอยู่ในช่วงพิจารณาครับ โดยระยะทางสำหรับการขนส่งทางรถไฟ แหลมฉบัง-ทวาย
คาดว่าจะอยู่ในระยะราวๆ 332 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยร่นระยะทางการขนส่งได้มาก
และประหยัดกว่าการขนส่งในเส้นทางเดิม.. ส่วนทางรถยนต์ จะมีการลงทุน 3 เฟส
ตั้งแต่ปรับซ่อมถนนเดิม (กาญจนบุรี-ชายแดนพม่า) ไปจนถึง สร้างมอเตอร์เวย์
ทำให้จะมีการเดินรถที่สะดวกมากตั้งแต่ ระยอง-กรุงเทพ-ชายแดนพม่า
ซึ่งรวมระยะทางแหลมฉบังถึงทวาย จะอยู่ราวๆ 450 กิโลเมตร
แนวเส้นทางการขนส่งระบบราง ซึ่งจะเชื่อมแหลมฉบังกับทวาย
หากเชื่อมต่อกันได้โดยสมบูรณ์ จะสามารถรองรับการขนส่งสินค้าข้ามสองฟากทะเล
โดยจากแหลมฉบังจะเป็นสินค้าที่มาจากฝั่งตะวันออกทั้งของไทยเราผลิตเองหรือจากต่างประเทศ
… ส่วนทวายนั้นเขาออกแบบมาให้เป็นศูนย์รับสินค้า, วัตถุดิบและผลิตสินค้าได้ด้วยตัวเอง
ดังนั้น สินค้าและวัตถุดิบที่มาจากฟากตะวันตกทั้งอัฟริกา ตะวันออกกลาง และอินเดีย
เมื่อโหลดขึ้นที่ทวาย หรือผลิตและประกอบที่ทวายแล้ว ก็สามารถขนส่งผ่านระบบราง
มาท่าเรือแหลมฉบัง และส่งต่อไปฟากตะวันออกได้
เส้นทางที่อยู่ในแผนการพัฒนาเป็นมอเตอร์เวย์สองฝั่งคือ
ฝั่งชายแดนพม่ามากรุงเทพ (350 กิโลเมตร) และ ไปเชื่อมต่อกับ มอเตอร์เวย์เดิม
วิ่งลงไป แหลมฉบัง
แผนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-ระยอง นอกจากจะผ่านศรีราชาแล้ว
ยังไปเชื่อมกับสนามบินอู่ตะเภาซึ่งกำลังจะถูกผลักดันให้ใช้เป็นสนามบินหลักอีกแห่งของประเทศ
การลงทุนด้านการขนส่งนี้ ผมว่าคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากนะครับ
แม้ในช่วงนี้ เราจะเห็นการก่อสร้างแบบ non stop ไม่เสร็จสมบูรณ์เสียที
ก็ขอให้อดทนกันหน่อย เพราะปัจจุบันมอเตอร์เวย์มันพีค มันแน่นมากๆแล้ว
ทางฝั่งตะวันออกนี้ เมื่อระบบขนส่งแล้วเสร็จสมบูรณ์
จะทำให้นิคมอุตสาหกรรมย่านแหลมฉบัง ศรีราชา ไปจนถึงระยอง ได้ประโยชน์อย่างยิ่ง
นิคมอุตสาหกรรม
ปัจจุบันนี้ รายรอบศรีราชา มีนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญคือ
นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง, ปิ่นทอง, เหมราชชลบุรี(1,2), อมตะซิตี้,
อีสเทอร์ซีบอร์ด
รวมไปถึงสหพัฒน์
ซึ่งปัจจุบันก็เป็นแหล่งผลิตสินค้าและการจ้างงานที่สำคัญในภาคตะวันออกอยู่แล้ว
ซึ่งเอาเท่าที่ยกมาให้ดูจะมีผู้ประกอบการ(โรงงาน) ราวๆ 1,100 ราย
และกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลพวงมาจาก
น้ำท่วมในเขตอุตสาหกรรมตอนบนของกรุงเทพ และความสะดวกในการขนส่งสินค้าในอนาคต
น่าจะทำให้ฝั่งตะวันออกมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับภาคอุตสาหกรรม
ศรีราชาในปัจจุบัน เต็มไปด้วยคนทำงาน
ซึ่งจะมีทั้งคนงานโรงงานซึ่งเป็นคนไทย และคนทำงานโรงงานซึ่งเป็นต่างชาติ
และชาติที่นิยมมาทำงานอยู่อาศัยในศรีราชาในตอนนี้คือชาวญี่ปุ่น
ว่ากันว่าในตอนนี้มีชาวญี่ปุ่นที่ทำงานประจำอยู่ในย่านนี้ร่วม 8,000 ตำแหน่ง
เมื่อนับรวมพวกที่ทำไม่ประจำ(พักอาศัยหลักเดือน) และลูกเมียของคนทำงานแล้ว
พอจะประเมินได้คร่าวๆว่ามีชาวญี่ปุ่นที่ศรีราชาไม่ต่ำกว่า 10,000 คนเป็นอย่างน้อยครับ
ซึ่งคนเหล่านี้จะมีงบสำหรับที่พักค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคนไทย คืองบราวๆ 30,000
– 50,000 บาท และมักจะเลือกอยู่อาศัยเป็นกลุ่มเป็นชุมชนเดียวกัน หลักๆจะเป็น Service
Apartment และคอนโดมิเนียมที่มี Facility เหมาะสม
ซึ่งในปัจจุบันถือว่ายังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการนะครับ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมดีๆ
ที่พอจะตั้งราคาค่าเช่าได้เหมาะสมในระดับนั้นมีอยู่ไม่กี่แห่ง
บางแห่งเต็มยาวต่อคิวเช่าก็มี
ร้านค้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่ศรีราชามีเยอะมาก ที่เด่นสุดน่าจะเป็น J
Park ที่จัดมาเป็นญี่ปุ่นจ๋าเลย
ศูนย์วัฒนธรรมนานาชาติ วาเซดะ
มีไว้เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้เรียนรู้และปรับตัวนั่นแหละครับ
สวนสาธารณะเกาะลอย พื้นที่สันทนาการที่สำคัญที่สุดของคนศรีราชา
เขตชุมชนค้าขายในเมืองดั้งเดิม โปรดสังเกตป้ายร้านครับ
ต้องมีภาษาญี่ปุ่นกันทุกร้าน… คนญี่ปุ่นที่นี่เขาไม่ได้กินหรูนะครับ
เขาเป็นคนทำงานวัยหนุ่มสาวระดับปฏิบัติงาน ดังนั้นอาหารการกินเขาไม่ยุ่งยากครับ
อาหารตามสั่งธรรมดานี่แหละ จะมีแค่บางวันที่ไปดื่มไปกินกับเพื่อนๆ
ถึงจะเข้าร้านประจำกันที
การพัฒนาที่อยู่อาศัยในศรีราชาปัจจุบัน นอกจากบ้านแนวราบแล้ว
เราจะเห็นคอนโดมิเนียมทั้งตึกสูงตึกเตี้ยโผล่ขึ้นมาหลายอาคารแล้วครับ
และมีแผนมาเปิดกันอีกหลายโครงการ หลายทำเล มีตั้งแต่ระดับราคาไม่กี่แสนบาท
ไปจนถึงหลักหลายสิบล้าน (35,000 – 110,000 บาทต่อตารางเมตร)
ที่ราคามันต่างกันเยอะเพราะอยู่ที่จะจับตลาดคนงานโรงงาน หรือผู้บริหาร หรือชาวต่างชาติครับ
ซึ่งการออกแบบห้องและ Facility ก็จะแตกต่างกันด้วย
ส่วนทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดคงไม่พ้นย่านในเมือง ใกล้ห้าง
ใกล้ย่านร้านค้าร้านอาหาร ที่มีเพื่อนๆคนคุ้นเคยกันอยู่หนาแน่นแต่เดิมแล้ว … ศรีราชาเป็นมืองที่อยู่ติดทะเล
และมีเนิน มี Slope นะครับ ถนนเส้นหลักคือสุขุมวิท วิ่งผ่าเมืองเลย
ซึ่งก็จะอยู่ไม่ห่างทะเลสักเท่าไร แปลว่าโครงการตึกสูงทั้งหลาย ถ้าอยู่บนเนินที่ดี
จะเห็นทะเลในมุมที่แตกต่างกันออกไปครับ
เมืองศรีราชา มองมาจากเกาะลอย
ดูราคาประเมินที่ดินศรีราชาของทางราชการแบบล่าสุดสิครับ ปัจจุบันนี้ราคาตลาดมันวิ่งแซงทิ้งห่างกันไปแบบไม่น่าจะหยิบจับกันได้ง่ายๆแล้ว
ที่ดินแปลงสวยๆราคายังกะกรุงเทพ คือแตะแสนกว่าต่อตารางเมตรกันหมดแล้วครับ
ส่วนใครที่คิดจะเข้ามาลงทุนเก็งกำไรที่ดินศรีราชา น่าจะต้องทำการบ้านกันเยอะหน่อย
ส่วนการลงทุนปล่อยเช่าในระยะสั้นๆไม่กี่ปีนี้ยังมีอนาคตที่สดใส ส่วนในระยะยาวไกลๆ
ต้องดูว่าจะมีการแห่มาเปิดจน Supply ล้นทะลักเหมือนในหลายๆที่หรือไม่
ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังให้หนักๆ เนื่องจากพื้นฐานของเมืองเป็นเมืองคนทำงาน
ไม่ใช่เมืองนักท่องเที่ยว Demand ดูดซับมันคนเฉพาะถิ่น
จะแตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวทั่วไปที่ลากคนต่างถิ่นมาซื้อได้นะครับ
การเติบโตเป็นเมืองท่าที่สำคัญของศรีราชา
ยังต้องผ่านบททดสอบอีกมากนะครับ การลงทุนและการเติบโตของเมือง
ยังต้องอาศัยแรงผลักดันจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องอีกยาว
ซึ่งไม่ควรคาดหวังการเติบโตแบบหวือหวา เพราะศรีราชายังต้องหวังอิงอยู่กับภาคอุตสาหกรรม
ซึ่งจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ… โปรดติดตามบทวิเคราะห์ทำเล
ศรีราชา แบบเจาะลึก ที่อยู่อาศัย ได้ในเร็วๆนี้
Source of Information
- การรถไฟแห่งประเทศไทย
- การท่าเรือแห่งประเทศไทย
- laemchabangport.com
- กรมธนารักษ์
- กรมทางหลวง
- การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- เทศบาลศรีราชา
- หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ 8 พ.ย. 2557 http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1415416543
- หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ 9 พ.ค. 2558 http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/646153
CRD : ขอขอบพระคุณข้อมูลดีดีจาก Thinkofliving.com
CONSTRUCTION UPDATE
13/08/15
13/08/15
งานกำแพงกันดินรอบอาคาร เสร็จ 100 %
งานเก็บฝ้าเพดาน,สี ชั้นที่ 5,6เสร็จ 100 %
งานเก็บฝ้าเพดาน,สี ชั้นที่ 7,8 เสร็จ 20 %
งานโครงสร้างห้องขยะ เสร็จ 100 % ,
งานโครงสร้างป้อมยาม เสร็จ 80 %
งานตีเส้นจราจร เสร็จ 95 %
งานเก็บฝ้าเพดาน,สี ชั้นที่ 5,6เสร็จ 100 %
งานเก็บฝ้าเพดาน,สี ชั้นที่ 7,8 เสร็จ 20 %
งานโครงสร้างห้องขยะ เสร็จ 100 % ,
งานโครงสร้างป้อมยาม เสร็จ 80 %
งานตีเส้นจราจร เสร็จ 95 %